วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ประมวลปัญหา-เฉลยบาลีไวยากรณ์ ประโยค ๑ – ๒ (นามศัพท์)





๑.  นามศัพท์ทั้ง ๓ อย่างไหนแบ่งเป็นกี่อย่าง  อะไรบ้าง ?
ตอบ  นามนาม แบ่งเป็น  ๒ อย่าง  คือ สาธารณนาม ๑  อสาธารณนาม ๑,  คุณนาม  แบ่งเป็น ๓ อย่าง  คือ ปกติ          วิเสสน  ๑ อติวิเสส ๑,    สัพพนาม  แบ่งเป็น  ๒ อย่าง  คือ ปุริสสัพพนาม  ๑ วิเสสนสัพพนาม ๑ 

๒.  สัพพนาม  คือนามอย่างไร  ?
ตอบ  สัพพนาม  คือนามที่ใช้แทนนามนามซึ่งออกชื่อมาแล้ว  เช่น ท่าน  เธอ  เขา  มัน  กู  สู  เอง  มึง  เป็นต้น ฯ  

๓.  ลิงค์แปลว่าอะไร  จัดเป็นเท่าไร   อะไรบ้าง   และจัดอย่างไร ?
ตอบ  แปลว่าเพศ, จัดเป็น  ๓ ปุงลิงค์  เพศชาย ๑  อิตถีลิงค์  เพศหญิง    นปุงสกลิงค์  มิใช่เพศชายมิใช่เพศหญิง  ๑,  จัดตามสมมติของภาษาบ้าง  ตามกำเนิดบ้าง 

๔.  วจนะหมายความว่ากระไร   มีกี่อย่าง   อะไรบ้าง   จำเป็นต้องมีหรือ  ถ้าไม่มี  จะเป็นอย่างไร ?  
ตอบ วจนะหมายความว่า คำพูดที่ระบุจำนวนนามนาม มี ๒  อย่าง คือ  เอวจนะ  สำหรับพูดถึงนามนามสิ่งเดียว,        
พหุวจนะ  สำหรับพูดถึงนามนามหลายสิ่ง, จำเป็นต้อมี  ถ้าไม่มีก็ทำให้ทราบจำนวนของนามว่ามากหรือน้อยไม่ได้  ฯ 

๕. วิภัตติ  มีหน้าที่อย่างไร  มีจำนวนเท่าไร  จัดเป็นหมวดหมู่กันอย่างไรบ้าง   จงบรรยาย ฯ 
ตอบ  วิภัตติมีหน้าที่แจกนามศัพท์ตามการันต์นั้นๆ ทำให้ศัพท์มีรูปต่างๆ หมุนไปให้ได้ความตามภาษา มีจำนวน ๑๔  จัดเป็นเอกวจนะ    พหุวจนะ  ๗ และจัดเป็นที่ ๆ  ๗ ที่ คือ  (ตีตารางเขียนวิภัตติ๑๔ตัว สิ โย อํ โย นา หิ เป็นต้น) ฯ 
 
๖. วิภัตติ  มีประโยชน์อย่างไร ?
ตอบ มีประโยชน์  ช่วยให้ผู้ศึกษากำหนดเนื้อความได้ง่ายขึ้น และจำลิงค์วจนะได้แม่นยำขึ้น ทำเนื้อความแห่งศัพท์ทั้งปวงให้ประสานเกี่ยวเนื่องถึงกัน  และได้ความตามภาษานิยม  ฯ 

๗.  การันต์คืออะไร  สำคัญอย่างไร ?
ตอบ สระที่สุดอักษรหรือสระที่คุณศัพท์ เรียกว่า การันต์   สำคัญคือ การที่จะทราบได้ว่าศัพท์ไหนเป็นการันต์อะไร  ท่านให้สังเกตสระที่สุดของศัพท์นั้น การันต์นี้ช่วยให้จำลิงค์ได้แม่นยำขึ้น และให้ความสะดวกในการแจกศัพท์ให้เปลี่ยนแปลงไปตามวิภัตติทั้ง ๗ 

๘.  การันต์โดยพิสดารมีเท่าไร  โดยย่อมีเท่าไร   อะไรบ้าง ?
ตอบ  การันต์โดยพิสดารมี ๑๓  คือ ปุงลิงค์มีการันต์ ๕ คือ อ อิ อี อุ อู. อิตถีลิงค์มีการันต์ ๕ คือ  อา อิ อี อุ อู.  นปุงสกลิงค์มีการันต์ ๓ คือ อ อิ อุ,    การันต์โดยย่อมี ๖ คือ   อา  อิ  อี  อุ  อู  ฯ 

๙.  อตฺต  ศัพท์  ไม่มีพหุวจนะ  ถึงคราวให้พหุวจนะ  จะใช้อย่างไร ?
ตอบ ใช้เอกวจนะนั้นเอง  แต่ถ้ามีนามที่เป็นพหุวจนะนั้นหลายพวก ใช้คำเอกวจนะซ้ำ ๒ หน อุทาหรณ์  อตฺตโน  อตฺตโน     ปตฺตาสเนสุ  นิสีทึสุ  ฯ 

๑๐.  ราช ศัพท์  เป็นได้กี่ลิงค์  ลิงค์อะไรบ้าง   วิธีแจกแบบเดียวกันหรือต่างกัน ?
ตอบ  เป็นได้  ๒ ลิงค์  คือ ปุงลิงค์  และอิตถีลิงค์  มีวิธีแจกต่างกันคือ ปุงลิงค์  แจกอย่างที่ปรากฏชัดในแบบแล้ว,  ส่วนที่เป็นอิตถีลิงค์แจกตามแบบนารี  ฯ 

๑๑.  มโนคณะ  มีกี่ศัพท์   คืออะไรบ้าง  มีวิธีแปลงวิภัตติเป็นอย่างไร   เมื่อเข้าสมาส จะต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ตอบ  มโนคณะ มี ๑๒ ศัพท์  คือ  มน อย  อุร  เจต  ตป  ตม เตช  ปย ยส  วจ  วย  สิร.
 มีวิธีแปลงวิภัตติอย่างนี้ คือ นา กับ สฺมา เป็น อา, ส ทั้ง ๒ เป็น โอ, สฺมึ  เป็น อิ, แล้วลง ส อาคมเป็น สา เป็นโส  เป็นสิ, เอา อํ เป็น โอ ได้บ้าง, เมื่อเข้าสมาสแล้ว  ต้องเอาสระที่สุดของตนเป็น  โอ ได้ เหมือนคำว่า มโนคโณ  หมู่แห่งมนะ  
อโยมยํ  ของที่คุณทำด้วยเหล็ก ฯ   

๑๒. ศัพท์เช่นไร  เรียกว่า  สังขยา ?
ตอบ  ศัพท์ที่เป็นเครื่องกำหนดนับนามนามให้รู้ว่า   นามนามมีจำนวนมากน้อยเท่าไรแน่  เรียกว่า  สังขยา ฯ  

๑๓. สังขยา  มีกี่อย่าง  ใช้ต่างกันอย่างไร  เป็นนามอะไร ?
ตอบ  สังขยา มี  ๒ อย่าง  คือ  ปกติสังขยาและปูรณสังขยา, ปกติสังขยาใช้นับตามปกติ  เช่น  ๑ ๒ ๓  ปูรณสังขยา ใช้นับตามลำดับที่ เช่น  ที่ ๑  ที่ ๒ ที่ ๓,  ปกติสังขยา  ตั้งแต่  เอก ถึง จตุ  เป็นสัพพนาม,  ตั้งแต่ ปญฺจ  ถึง อฏฺฐนวุติ เป็นคุณนาม, ตั้งแต่ เอกูนสตํ  ไปเป็นนามนาม  ส่วน  ปูรณสังขยา  เป็นคุณนามล้วน ฯ

๑๔.  ปกติสังขยา  เป็นนามอะไร ?
ตอบ ปกติสังขยา  แบ่งเป็นนามดังนี้ คือ  ตั้งแต่ เอก. ถึง จตุ. เป็นสัพพนาม. ตั้งแต่  ปญฺจ  ถึง อฏฺฐนวุติ  เป็นคุณนาม.  ตั้งแต่ เอกูนสตํไป เป็นนามนาม ฯ 

๑๕.  สัพพนาม  มีเท่าไร   อะไรบ้าง   และต่างกันอย่างไร ?
ตอบ  มี ๒ คือ ปุริสสัพพนาม  ๑ วิเสสนสัพพนาม  ๑.  ต่างกัน คือ ปุริสสัพพนาม  สำหรับใช้แทนชื่อคน สัตว์  และสิ่งของต่าง ๆที่ได้ออกชื่อมาแล้ว  เพื่อมิใช้ซ้ำ    ซาก ๆ ซึ่งไม่เพราะหู เช่น  โส เขา ตฺวํ  เธอหรือท่าน, อหํ ข้าพเจ้าหรือเรา  ตามฐานะสูงหรือต่ำ. ส่วนวิเสสนสัพพนาม  ส่องความให้ทราบว่า สิ่งนั้น  ๆ อยู่ใกล้หรือไกล เช่น  โส ชโน  ชนนั้น,  เอโส  ธมฺโม ธรรมนั่น, อิทํ  วตฺถุ วัตถุนี้, อสุโก  ปุคฺคโล บุคคลโน้น  เป็นต้น 

๑๖.  ปุริสสัพพนาม แบ่งเป็นกี่อย่าง ?  อะไรบ้าง ?  และใช้ศัพท์อะไรประจำชั้นนั้น ๆ ?
ตอบ  แบ่งเป็น ๓ อย่าง คือ  ประถมบุรุษ  ๑ มัธยมบุรุษ  ๑ อุตตมบุรุษ ๑  ประถมบุรุษใช้  ต ศัพท์  มัธยมบุรุษใช้      ตุมฺห ศัพท์ อุตตมบุรุษใช้  อมฺห ศัพท์ 

๑๗.  วิเสสนสัพพนาม  แบ่งเป็นเท่าไร ?  อะไรบ้าง ?  และหมายความต่างกันอย่างไร ?
ตอบ  แบ่งเป็น ๒ คือ  นิยม  กับ  อนิยม,  นิยม  คือพูดเจาะจงถึงคนหรือของสิ่งนั้นสิ่งนี้โดยแน่นอน  อนิยม   คือพูดไม่เจาะจงลงเป็นแน่นอน       


                                                 ธมฺมธารี ภิกฺขุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น