ประมวลปัญหาและเฉลยบาลีไวยากรณ์ ที่ควรรู้เป็นเบื้องต้น
ถ. บาลีไวยากรณ์ว่าด้วยเรื่องอะไร ? แบ่งเป็นกี่ภาค ? อะไรบ้าง ?
ต. ว่าด้วยเรื่องระเบียบถ้อยคำสำนวน และระเบียบหนังสือในภาษาบาลีทั่วไป. แบ่งเป็น
๔ ภาค คือ อักขรวิธี
๑ วจีวิภาค ๑ วากยสัมพันธ์ ๑ ฉันทลักษณ์ ๑.
ถ. ผู้ศึกษาบาลีไวยากรณ์ ได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
ต. ได้รับประโยชน์
คือ
ความรู้ความเข้าใจในภาษาบาลีว่าอะไรเป็นอะไร เป็นเหตุให้ใช้ถ้อยคำสำนวนถูกต้อง ได้ระเบียบตามภาษานิยม เหมือนกับผู้เรียนไวยากรณ์ภาษาไทย ก็รู้และเข้าใจภาษาไทยได้ดีฉะนั้น.
ถ. อะไรเรียกว่าอักขระ ? อักขระแปลว่าอะไร ? มีอุปการะอย่างไรหรือ
เขาจึงใช้กันทุกชาติ ?
ต. เสียงก็ดี
ตัวหนังสือก็ดี ชื่อว่าอักขระ. อักขระแปลว่าไม่รู้จักอย่างหนึ่ง, ไม่เป็นของแข็งอย่างหนึ่ง.
เนื้อความของถ้วยคำทั้งปวง ต้องหมายรู้กันได้ด้วยอักขระทั้งนั้น เพราะฉะนั้น
เขาจึงต้องใช้กันทุกชาติ.
ถ. อักขรวิธี แบ่งออกเป็นกี่แผนก ? อะไรบ้าง ?
แผนกไหนว่าด้วยเรื่องอะไร ?
ต.
แบ่งเป็น ๒ แผนก คือ
สมัญญาภิธาน
ว่าด้วยอักษรที่เป็นสระและพยัญชนะ
พร้อมทั้งฐานกรณ์แผนก ๑ สนธิ
ว่าด้วยต่ออักษรที่อยู่ในคำอื่นให้เนื่องเป็นอันเดียวกันแผนก ๑.
(สมัญญาภิธาน)
ถ.
อักขระที่ใช้ในบาลีภาษานั้น
มีเท่าไร ?
อะไรบ้าง ?
ต. มี ๔๑
ตัว คือ อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ๘ ตัวนี้ชื่อ สระ. ก ข ค ฆ ง, จ ฉ ช ฌ , ฏ ฑ ฒ ณ, ต ถ ท ธ
น, ป ผ พ ภ ม, ย ร ล ว ส ห ฬ ๓๓
ตัวนี้ชื่อพยัญชนะ.
ถ. อะไรเรียกว่านิสัย
? อะไรเรียกว่านิสสิต ? มีหน้าที่ต่างกันอย่างไร ?
ต. สระ
๘ ตัวเรียกว่านิสัย. พยัญชนะ ๓๓
ตัวเรียกว่านิสสิต,นิสสัย มีหน้าที่ออกสำเนียง
และเป็นที่อาศัยแห่งพยัญชนะ. นิสสิตมีหน้าที่ทำเนื้อความให้ปรากฏ แต่ต้องอาศัยสระ.
ถ. อักขระพวกไหนชื่อว่านิสสัย
? พวกไหนชื่อว่านิสสิต ?
เพราะเหตุไร ?
ต. อักขระ ๘ ตัวเบื้องต้นชื่อว่านิสสัย
เพราะเป็นที่อาศัยของพยัญชนะ, ที่เหลือนอกนี้ชื่อว่านิสสิต เพราะต้องอาศัยสระ.
ถ. สระ ๘
ตัว ๆ ไหนเป็นรัสสะ ทีฆะ
? และตัวไหน จัดเป็นครุ ลหุ ?
ต. อ อิ อุ
เป็นรัสสะ, อา อี อู เอ โอ
เป็นทีฆะ, แต่ เอ เป็น โอ ๒ตัวนี้ ถ้ามีพยัญชนะสังโยคซ้อนกันอยู่เบื้องหลัง ท่านจัดเป็นรัสสะ.สระที่เป็นทีฆะล้วน ๕ ตัว
และที่เป็นรัสสะมีพยัญชนะสังโยคและ นิคคหิตอยู่เบื้องหลัง จัดเป็นครุ.
สระที่เป็นรัสสะล้วน
ไม่มีพยัญชนะสังโยคและนิคคหิตอยู่เบื้องหลัง จัดเป็นลหุ.
ถ. เอ
กับ โอ
โดยฐานต่างจากสระอื่นอย่างไร
จงบรรยายและชี้เหตุด้วย ?
ต. สระอื่นเกิดในฐานเดียว เอ กับ โอ เกิดใ น ๒ ฐาน
เอ เกิดที่คอและเพดาน. โอ เกิดที่คอและ ริมฝีปาก. เพราะสระ
๒ ตัวนี้เป็นสังยุตตสระ. อ กับ
อิ ผสมกันเป็น เอ. อ
กับ อุ ผสมกันเป็น โอ.
ถ.
พยัญชนะ แปลว่ากระไร ?
ต. พยัญชนะ
แปลว่า ทำเนื้อความให้ปรากฏ คือให้ได้ความชัดเจนขึ้น
ถ. พยัญชนะ
๓๓ ตัวนั้น จัดเป็นวรรคก็มี เป็นอรรคก็มี การจัดอย่างนั้น
ถืออะไรเป็นหลัก หรือจัดส่ง ๆไปเช่นนั้น ?
ต.
ถือฐานกรณ์เป็นหลัก คือพยัญชนะที่เป็นพวก ๆ กัน ตามฐานกรณ์ที่เกิด จัดเป็นวรรค.
ที่ไม่เป็นพวกเป็นหมู่กันตามฐานกรณ์ที่เกิด
จัดเป็นอวรรค. มีหลักอย่างนี้ มิได้จัดส่ง ๆ ไป.
ถ.
พยัญชนะวรรค อวรรค อย่างไหนมีจำนวนเท่าไร ? จงบรรยาย.
ต.
พยัญชนะวรรค มี ๒๕ ตัว ก
ข ค ฆ ง, จ ฉ ช ฌ ,ฏ
ฑ ฒ ณ, ต ถ ท ธ น, ป ผ พ ภ ม.
ที่เป็น อวรรค ๘ ตัว คือ ย
ร ล ว ส ห ฬ .
ถ.
อนุสาร คืออะไร ? และแปลว่าอะไร ? เหตุใดจึงชื่ออย่างนั้น ?
ต.
อนุสาร คือนิคคหิต, แปลว่า ไปตามสระ.
ได้ชื่ออย่างนั้นก็เพราะไปตามสระ คือ อ อิ
อุ เสมอ เหมือนคำว่า อห เสตุ อกาสึ เป็นต้น.
ถ.
พยัญชนะเช่นไรเรียกว่าพยัญชนะสังโยค
จงอธิบายถึงวิธีที่อาจเป็นได้เพียงไร ?
ต.
พยัญชนะที่ซ้อนกันเรียกว่าพยัญชนะสังโยค
วิธีที่อาจเป็นได้นั้นดังนี้ คือ พยัญชนะที่ ๑ ซ้อนหน้าพยัญชนะที่ ๑และ ที่ ๒
ในวรรคของตนได้, พยัญชนะที่ ๓ ซ้อนหน้าพยัญชนะที่
๓ และที่ ๔ ในวรรคของตนได้, พยัญชนะที่สุดวรรค
ซ้อนหน้าพยัญชนะในวรรคของตนได้ทั้ง ๕ ตัว
เว้นแต่ตัว ง
ซึ่งเป็นตัวสะกดอย่างเดียว ซ้อนหน้าตัวเองไม่ได้, ย ล
ส ซ้อนหน้าตัวเองได้, นอกจากนี้ยังมีอีก แต่ท่านมิได้วางระเบียบไว้แน่นอน.
ถ. พยัญชนะอะไรบ้างซ้อนหน้าตัวเองได้ ? พยัญชนะอะไรบ้าง ได้แต่ซ้อนหน้าพยัญชนะอื่น ?
ต.
พยัญชนะที่ ๑ ที่ ๓ ที่ ๕ ในวรรคทั้ง ๕ เว้นแต่ ง กับ ย ล ส ซ้อนหน้าตัวเองได้, ง ว
ฬ ได้แต่ซ้อนหน้าพยัญชนะอื่นบางตัว.
(สนธิ)
ถ. สนธิกับสมาส
มุ่งลักษณะอย่างเดียวกันมิใช่หรือ ? เห็นอย่างไร ? จงอธิบาย
ต.
มุ่งลักษณะต่างกัน
สนธิหมายเอาลักษณะการต่อตัวอักษรมิได้เพ่งถึงศัพท์. ส่วนสมาสเพ่งการย่อศัพท์หลาย ๆ บท ให้เข้าเป็นบทเดียวกัน
มิได้มุ่งการต่อตัวอักษร.
แต่ถ้าอักษรที่ต่อกันในสมาสมีวิธีซึ่งต้องต่อด้วยวิธีของสนธิ
จึงต้องเอาวิธีสนธิมาให้.
ถ. สนธิ
กล่าวตามประเภทเป็นกี่อย่าง? นิคคหิตสนธิ
๑ อย่างไหน ต้องใช้สนธิกิริโยปกรณ์เท่าไร? คืออะไรบ้าง ?
ต. เป็น ๓
คือ สระสนธิ ๒ พยัญชนะสนธิ ๑ นิคคหิตสนธิ
๑ สระสนธิ ใช้สนธิกิริโยปกรณ์ ๗ คือ
โลโป อาเทโส อาคโม วิกาโร
ปกติ ทีโฆ รสฺส. พยัญชนะสนธิ ใช้สนธิกิริโยปกรณ์ ๕ คือ โลโป
อาเทโส อาคโม ปกติ
สญฺโโค. ส่วนนิคคหิตสนธิใช้สนธิกิริโยปกรณ์ ๔ คือ
โลโป อาเทโส อาคโม ปกติ.
ถ. สระสนธิ ได้สนธิกิริโยปกรณ์เท่าไร อะไรบ้าง
?
ต. ได้สนธิกิริโยปกรณ์เป็น ๗ คือ
โลโป อาเทโล อาคโมวิกาโร ปกติ ทีโฆ รสฺส,
ถ. พยัญชนะสนธิ
ได้สนธิกิริโยปกรณ์เท่าไร?
ต.
พยัญชนะสนธิ ได้สนธิกิริยาโยปกรณ์
๕ คือ โลโป อาเทโส อาคโม ปกติ สญฺโโค.
ถ.
อาเทสกับวิการ ต่างกันอย่างไร ?
ต. อาเทส ได้แก่แปลงสระหรือนิคคหิตให้เป็นพยัญชนะ หรือ แปลงพยัญชนะให้เป็นสระ หรือเป็นพยัญชนะอื่นจากเดิม, ส่วนวิการได้แก่ทำสระให้เป็นสระมีรูปผิดจากวัณณะเดิม ต่างกันอย่างนี้.
พ.ม.สมพร